เว็บไซต์มีบทบาทสำคัญมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากการปรับเปลี่ยนไปสู่โลกดิจิทัล ซึ่งบริษัท B2B หลายแห่งก็เริ่มดำเนินการปรับตัว แม้แต่ในประเทศไทยที่มีประชากรประมาน 69 ล้านคนและมีอัตราการเข้าถึงสมาร์ทโฟนสูงถึง 97% และทุกคนต่างก็มีบรรทัดฐานและมีสภาพแวดล้อมที่ทุกคนสามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย
จนถึงขณะนี้ บริษัท B2B หลายที่ได้ใช้วิธีการขายแบบเข้าหาลูกค้าโดยตรง แต่เนื่องจากตอนนี้อินเทอร์เน็ตได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจการรวบรวมข้อมูลทางออนไลน์และติอต่อผ่านเว็บไซต์โดยตรงจึงเพิ่มขึ้น มีหลายกรณีที่การสอบถามผ่านเว็บไซต์นำไปสู่การเจรจาทางธุรกิจ ด้วยเหตุนี้เว็บไซต์ขององค์กรที่มีการแสดงข้อมูลของบริษัท วัสดุผลิตภัณฑ์ ฯลฯ เพียงอย่างดียวจึงกลายเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการทบทวนและปรับปรุง จากการสำรวจของ Forrester 2019 พบว่า 60% ของผู้ซื้อในนามองค์กรกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้เลือกพนักงานขายเป็นแหล่งข้อมูลหลัก นอกจากนี้ดูเหมือนว่า 62% ของบริษัทต่างๆ ตอบว่าสามารถจำกัดผลิตภัณฑ์ให้แคบลงเพื่อซื้อโดยพิจารณาจากเนื้อหาดิจิทัลเท่านั้นและเลือกรายชื่อซัพพลายเออร์ เพราะเหตุนี้เว็บไซต์จึงกลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญสำหรับธุรกิจ B2B โดยเราขอแนะนำ 5 ประเด็นสำคัญในการสร้างเว็บไซต์ให้ประสบความสำเร็จสำหรับธุรกิจ  B2B

1. กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน

จุดประสงค์ของเว็บไซต์ไม่ได้เป็นเพียงการต่ออายุการใช้งานแต่เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจโดยการดำเนินการปรับปรุงเว็บไซต์ให้เกิดประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่นในกรณีของ บริษัท B2B จุดประสงค์ของเว็บไซต์อาจเพื่อสร้าง “การสอบถาม” หรือ “ขอสินค้าตัวอย่าง” เป็นต้น

ตัวอย่าง)
วัตถุประสงค์ = ความสำเร็จที่คุณต้องการสร้างบนเว็บไซต์ของคุณ = เพิ่มการสอบถาม ได้รับ 5 คำถามต่อเดือน
วิธีการ = บรรลุวัตถุประสงค์ = เพิ่มจำนวนการเข้าถึงปรับปรุง CVR (กำหนดค่าตัวเลขให้ชัดเจน)

 

นอกจากนี้เนื่องจากเว็บไซต์เป็นแพลตฟอร์มในการเชื่อมต่อกับลูกค้าสิ่งสำคัญคือโครงสร้างต้องง่ายสำหรับผู้ใช้ที่ออกแบบอย่างเหมาะสมจากมุมมองของผู้ใช้ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ซึ่งหลังจากเปิดตัวเว็บไซต์แล้วเราจะต้องดำเนินการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้บนเว็บไซต์โดยการวิเคราะห์การเข้าถึง ค้นหา หรือแหล่งที่มา โดยใช้การวิเคราะห์ PDCA ที่นำไปสู่มาตรการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพให้ตรงต่อความต้องการของเป้าหมายเรามากขึ้น

2. ทราบปัญหาของบริษัทของคุณ

หลังจากกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายแล้ว การวิเคราะห์ถึงปัญหาปัจจุบันว่าเกิดจากอะไรเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุจุดประสงค์และสิ่งที่ต้องทำอย่างอย่างไร เพื่อหามาตรการแก้ปัญหากันต่อไป

ตัวอย่างเช่นหากวัตถุประสงค์คือ “เพิ่มการสอบถามข้อมูล” คุณต้องวิเคราะห์สถานการณ์บริษัทของคุณ หากคุณเป็นธุรกิจใหม่ในประเทศไทยหรือคนในประเทศไทยไม่คุ้นเคยกับบริษัทของคุณ ดังนั้นกลยุทธ์คือการสร้างการรับรู้เพื่อเพิ่มคุ้นชินให้กับแบรนด์ควรเป็นขั้นตอนแรก และหากจำนวนการสอบถามหรือการมีส่วนร่วมไม่เพิ่มขึ้นเราก็ควรวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน เช่น เว็บไซต์ของคุณจะปรากฏบนหน้าจอผลการค้นหาอย่างไร และคุณจะทำอย่างไรเพื่อให้มันขึ้นในหน้าแรก นี่คือสิ่งที่เราควรคำนึงและวางกลยุทธิ์ให้ตรงจุดประสงค์

3. รู้จักสินค้า / บริการของคุณและกลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร

เมื่อคุณเข้าใจปัญหาของบริษัทและกำหนดกลยุทธ์ที่ตรงตามประเด็นแล้ว คุณสามารถวางแผนที่เป็นรูปธรรมในการสร้างเว็บไซต์ของคุณได้ อธิบายผลิตภัณฑ์และบริการ กลุ่มเป้าหมายที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ และหากเป็นเว็บไซต์ของธุรกิจ B2B การสร้างช่องทางการติดต่อสำหรับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์และบริการของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งลูกค้ากำลังมองหาข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาของพวกเขาและพิจารณาซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตัวอย่างเช่นหากมีปัญหาเช่น “ความร่วมมือระหว่างแผนกไม่ได้รับการยอมรับอย่างดีและการบริหารเวลาไม่ดี” ก็จะนำไปการมองหาแนวทางแก้ไข โดยเราดึงดูดลูกค้าด้วยหัวข้อในลักษณะคำถามที่น่าสนใจ เช่น  “ถึงเวลาพิจารณาการจัดการการผลิตใหม่แล้วหรือยัง?”. ด้วยการโพสต์บนเว็บไซต์ในลักษณะที่เข้าใจง่ายว่าลูกค้าเป้าหมายมีปัญหาประเภทใดและผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเขาสามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างไรเพื่อนำไปสู่การเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัท ด้วยการทำความเข้าใจรูปแบบพฤติกรรมของลูกค้าทำให้สามารถออกแบบนโยบายและสร้างเว็บไซต์ที่มีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้

4. การออกแบบที่เน้นข้อความ

เว็บไซต์มีไว้สำหรับผู้ใช้งานดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่การออกแบบจะง่ายสำหรับผู้ใช้ที่จะมองเห็น ต่อไปนี้เป็นประเด็นที่ควรคำนึงถึงเมื่อออกแบบเว็บไซต์สำหรับ บริษัท B2B

  • การออกแบบบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า บริษัทเป็นแบบใดในการมองเห็นครั้งแรก
  • การออกแบบนั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมไซต์สามารถค้นหาข้อมูลได้โดยไม่เกิดการสับสน
  • การออกแบบนั้นบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือและไว้วางใจหรือไม่
  • การออกแบบมีปุ่ม Call to action หรือไม่
  • การออกแบบนั้นอ่านง่ายแม้ในโทรศัพท์หรือไม่

องค์ประกอบทั้งหมดข้างต้นควรรวมอยู่ในการออกแบบเพื่อให้สามารถนำไปสู่การแปลงได้ดีขึ้นและเกิดผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

5. การจัดการเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อ

การเปิดตัวเว็บไซต์ไม่ใช่จุดสิ้นสุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้องแม้ว่าจะได้รับการพัฒนาแล้วก็ตาม เราจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายสำหรับเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เข้าถึงได้ โดยเมื่อสร้างเว็บไซต์ใหม่จำเป็นต้องพิจารณาถึงวิธีดึงดูดลูกค้ามายังเว็บไซต์ด้วย ซึ่งมีวิธีการต่างๆ ในการดึงดูดลูกค้าเข้าสู่เว็บไซต์ เช่น โฆษณา, ปรับปรุง SEO, การโพสต์บนโซเชียลมีเดีย และการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ รวมไปถึงการอัพเดทบทความหัวข้อที่น่าสนใจบนเว็บไซต์เป็นประจำก็ช่วยในเรื่องของการค้นหาเว็บไซต์ได้ง่ายและดึงดูดผู้ชมเข้ามาในหน้าเว็บไซต์ได้มากยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง

  • News

การอัพเดทเนื้อหา การแจ้งเตือน เช่น อัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อมูลเหตุการณ์เป็นครั้งคราว หากข่าวล้าสมัยจะส่งผลต่อความไว้วางใจของผู้ใช้และผลกระทบต่อการเพิ่มประสิทธิภาพของหน้าค้นหาอีกด้วย

  • Case study

ด้วยการเพิ่มจำนวนบทความกรณีศึกษาเป็นประจำบนเว็บไซต์ เสนอผลิตภัณฑ์และบริการ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้จินตนาการได้ง่ายขึ้นว่าจะได้อะไรหลังจากได้รับผลิตภัณฑ์ / บริการในกรณีของตน

  • Blog

การอัพเดทเนื้อหาของคุณเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มการนำเข้าไปสู่เว็บไซต์ขอวองค์กร (การเข้าชมจากผลการค้นหาคำหลัก)

นอกจากนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการในการอัพเดทเนื้อหาดังกล่าวควรทำอย่างต่อเนื่อง วิเคราะห์สถานะการเข้าถึงเป็นระยะโดยรับรู้ปัญหาและแนวทางการปรับปรุง โดยในการวิเคราะห์การเข้าถึงจำเป็นต้องอ้างอิงถึงค่าตัวเลขทั่วไปเช่น PV (จำนวนการดูหน้าเว็บ), UU (จำนวนผู้เยี่ยมชม), อัตราตีกลับอัตรา, Conversion, เป็นต้น แต่จากผลการวิเคราะห์ให้ตั้งสมมติฐานที่จะเป็นปัญหาเพื่อแก้ไขและปรับปรุง อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือต้องสะท้อนการทำงานในแผน ตัวอย่างเช่น หากอัตราตีกลับสูงกว่าอัตราอื่นๆ เมื่อมีโฆษณาเข้ามาเท่านั้น จึงมีการตั้งสมมติฐานว่าโฆษณาและหน้าปลายทางอาจไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ หากการออกแบบโฆษณาหรือข้อความไม่เหมาะกับผู้ใช้เป้าหมายจำเป็นต้องใช้มาตรการเพื่อเปลี่ยนแปลงการออกแบบโฆษณาและจำเป็นต้องพิจารณาเปลี่ยนแปลงหน้า landing page อีกด้วย

สรุป

หวังว่า 5 ข้อสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับเว็บไซต์ของธุรกิจ B2B ที่ทางเราได้แนะนำไปจะช่วยเป็นแนวทางให้ทุกท่านได้สร้างประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้นได้นะครับหรือหากคุณต้องการสร้างเว็บไซต์ แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนหรือหากคุณมีเว็บไซต์แต่ผลลัพธ์ไม่ดีโปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเรา!