ปัจจุบันแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมต้องยกให้ Facebook โดยคิดเป็น 90% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารทางด้านการตลาดซึ่งอาจจะเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายกว่าการตลาดแบบ Tradiontal เนื่องด้วยโซเชียลมีเดียสามารถการเข้าถึงผู้ใช้อย่างรู้ใจทำให้สามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าและผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้อีกด้วย.
ในปัจจุบันการใช้โซเชียลมีเดียกลายเป็นเรื่องธรรมดาแม้แต่ในบริษัทที่ทำธุรกิจทางด้าน B2B ก็ยังให้ความสำคัญ ซึ่งในบล็อกนี้เราจะขออธิบายถึงประโยชน์ของการใช้ Facebook สำหรับบริษัท B2B เป็นหลักนะคะ

ประโยชน์ของการใช้ Facebook :

1.เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของบริษัท
2.ดึงดูดผู้ใช้ให้เข้าถึงเว็บไซต์
3.การโพสต์เนื้อหาต่างๆสามารถเผยแพร่ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้
4.สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบันและผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า

จนถึงตอนนี้ ธุรกิจ B2B ในไทยหลายแห่งคิดว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้ Facebook เพราะ Facebook เหมาะสมสำหรับธุรกิจ B2C มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสารกับลูกค้า เช่น การเผยแพร่ข้อมูลในสถานการณ์ต่างๆ “ร้านนี้อร่อยมาก” “สินค้าตัวนี้มีประโยชน์จริงๆ” โดยการทำคอนเทนท์ก็ไม่ยุ่งยากและซับซ้อน

ในทางกลับกันในกรณีของธุรกิจ B2B การสื่อสารด้วยข้อมูลเช่น“ ฉันได้ติดตั้งอุปกรณ์ของบริษัทผู้ผลิตนี้” และ“ ฉันใช้โซลูชันนี้ของบริษัทนี้” ไม่ใช่เรื่องปกติที่บุคคลทั่วไปจะแบ่งปันและสนใจกันทุกคน สำหรับธุรกิจ B2B ที่ให้บริการด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือซอฟต์แวร์ ฯลฯ คงจะมีคำถามว่าจะเข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ของตนโดยใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้อย่างไร? B2B ไม่เหมาะกับการใช้โซเชียลมีเดียจริงๆหรือ? เรามาหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ

ความสำคัญของธุรกิจ B2B ในการใช้โซเชียลมีเดียในตลาดไทย

จริงๆแล้ว ผลิตภัณฑ์ B2B มีแนวโน้มการซื้อจากผู้ประกอบการธุรกิจเมื่อมีความต้องการในการเปลี่ยนหรือแทนที่สินค้าเดิม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรักษาและเพิ่มผลกำไรจากความสัมพันธ์ของฐานลูกค้าเก่าเท่านั้น ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจตอนนนี้หากเราต้องปลูกฝังลูกค้าใหม่เพื่อขายผลิตภัณฑ์ของเราให้มากขึ้นและขายได้อย่างกว้างขวาง สิ่งสำคัญคือสร้างการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ให้แพร่กระจายไปยันกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่  บริษัท B2B หลายแห่งจึงเริ่มตระหนักถึงความจำเป็นในการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการสร้างการรับรู้และฐานลูกค้าใหม่

1. เพิ่มการรับรู้/เจาะกลุ่มการตลาด

ตัวอย่างเช่น ผู้ซื้อที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ขนาดใหญ่ จะเริ่มจากการรวบรวมข้อมูล ค้นหาข้อมูลผ่านทาง google,เว็บไซต์บริษัท,สื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อศึกษาและเรียนรู้ข้อมูลเพื่อนำมาทำการตัดสินใจ บริษัท B2B จึงต้องมีส่วนร่วมกับผู้คนที่สามารถเป็นเป้าหมายในชีวิตประจำวันได้
ในประเทศไทยการใช้สื่อโฆษณาใบปลิว เช่น WISE และเว็บไซต์ข้อมูลธุรกิจ SAMURAI ASIA ถือได้ว่าเป็นช่องทางหนึ่งในการดึงดูดบริษัท B2B ของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามจำนวนโฆษณาในสื่อดังกล่าวมีจำกัด และมักไม่มีให้เห็นบ่อยนักเว้นแต่คุณจะมองหาข้อมูลเฉพาะ ซึ่งในประเทศไทย 90% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตใช้ Facebook และใช้เวลามากกว่า 9 ชั่วโมงบนอินเทอร์เน็ตทุกวัน เราได้รับข้อมูลจากโซเชียลมีเดียในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง

2. ดึงดูดคนเพื่อเข้าถึงเว็บไซต์

Content SEO ถูกใช้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ช่วยเผยแพร่เนื้อหาที่ยอดเยี่ยมบนไซต์ของบริษัทโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณาและดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้เข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทได้จากการค้นหาบนGoogleได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเพื่อให้เนื้อหา SEO ปรากฏในหน้าแรกของการค้นหา ในขณะเดียวกันการตลาดบนโลกโซเชียลมีเดียก็เป็นวิธีหนึ่งที่คุณสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วเช่นการสร้างเนื้อหาที่น่าดึงดูดบนโซเชียลมีเดียเพื่อให้คนเข้ามามีปฏิกิริยาตอบโต้และคลิ๊กไปชมข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์ในที่สุด

3. การโพสต์เนื้อหาต่างๆ ที่เผยแพร่ไปยังกลุ่มเป้าหมาย

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการทำโฆษณาบน Facebook เมื่อตั้งค่าโฆษณาคุณสามารถตั้งค่าตามข้อมูลเจาะลึก ไม่ว่าจะเป็นโลเคชั่น เพศ อายุ ตลอดจนความสนใจของพวกเขา แต่เหนือสิ่งอื่นใดการสร้างเนื้อหาคอนเทนท์ โดยการสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ / บริการของบริษัท ก็ตาม เพื่อดึงดูดความสนใจก่อนจากนั้นจึงนำไปสู่ผลิตภัณฑ์และบริการของตนในขั้นต่อไป

4. สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิมและกลุ่มเป้าหมายใหม่

นอกจากนี้ยังมีบางกรณีที่ใช้ Facebook แต่ไม่ได้นำไปสู่การเพิ่มยอดขายในทันที สิ่งสำคัญคือต้องสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใช้ก่อนที่จะโพสต์อย่างเดียวกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเพื่อสร้างความรู้สึกไว้วางใจและความคุ้นเคยจากผู้ใช้เราจึงจัดทำแคมเปญบน Facebook เป็นประจำและนำเสนอภาพกิจกรรมขององค์กร สภาพแวดล้อมการทำงาน ฯลฯ เพื่อสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือจากกลุ่มเป้าหมาย และค่อยๆนำไปสู่ความคิดในการพิจารณาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท

นี่คือตัวอย่างบางส่วนของบริษัท B2B ในตลาดไทยใช้ Facebook ในการผลักดัน

PTT News

PTT News upload information through Facebook with a large number of posts each month, and actively builds relationships with customers. Mainly to build credibility with users, they actively upload posts about what the company is doing.

Note: Engagement is the action taken by a user on a post. (Example: Good, share spread, comments, etc.)

SCG

They provide knowledge content such as global warming content (left) and carbon dioxide danger (right).

3M

They are posting mainly about their company activities, service introductions, and knowledge education contents.

NTTDATA

NTT DATA is an example of our actual case study.
Due to the lack of brand awareness, it was difficult for them to approach new graduates and people who are looking for a job, and in the business market as well, they could not expand to actual sales due to the lack of recognition of their services.
Achievement: By regularly uploading content each month, they now get a lot of followers to their Facebook page and now receive inquiries about recruitment and service inquiries once a week.

Summary

We introduced the importance of B2B companies in the Thai market for utilizing Facebook.
B2B companies need to make good use of social media to create search demand and generate more inquiries.

If you are a B2B company that has no previous experience of digital marketing, please feel free to contact us.

2020年5月7日および21日、現地のECやリアル店舗向けに、Instagram（インスタグラム）を活用して売上アップを実現するウェビナーを開催することを発表します。

新型コロナウイルスの影響で消費が落ち込み、多くの企業が苦しい状況に追い込まれています。厳しい外出制限令が敷かれているタイでは、在宅勤務の導入が急激に進み、対面での打ち合わせや販売が困難になっています。逆に、インターネット利用は増え、フードデリバリーやオンラインショッピングの需要は著しく増加するなど、オンラインに強い企業は順調にその業績を伸ばしています。

ウェビナー開催の目的は、こうした新型コロナウイルス影響下の「巣ごもり消費」を顧客企業のビジネス変革のチャンスと捉えて、その存続・成長を支援することです。その解決策として、Instagram（インスタグラム）と連携して売上アップを実現するデジタルマーケティングツール「visumo」をご紹介し、オンラインやSNSの活用に悩んでいるタイのマーケッターの皆さんにInstagram（インスタグラム）を使ったアプローチの仕方を具体的にご提案します。

対象はタイに進出する日系企業および現地企業のECやリアル店舗担当者で、言語はタイ語で実施します。英語によるウェビナーも後日開催予定です。

■ウェビナー概要

日程：2020年5月7日(木) ／ 21日(木)
時間：2:30pm〜3:00pm（タイ時間）
言語：タイ語　※英語版も後日開催予定です。
配信：Facebookライブ
料金：無料
講師：アイコム　デジタルマーケティング営業部長　Knight（ナイ）
アイコム　デジタルプロジェクトマネージャー　Tee（ティー）
詳しくはこちら

■「Instagram（インスタグラム）」とは？

今や世界で利用者が10億人を超える、画像投稿をメインとした大人気SNSです。タイでも2020年4月時点で利用者が約1,300万人（全人口の約20%）に上り、前年度と比較すると150万人も増えています。
（参考：Napoleoncat  https://napoleoncat.com/stats/instagram-users-in-thailand/2020/04）

■「visumo」とは？

nstagram（インスタグラム）上の投稿写真をハッシュタグで収集し、自社サイトに活用して購入率を向上できるInstagram（インスタグラム）連携ツールです。「Instagram」に投稿された一般ユーザーの写真を利用して、自社の商品サービスの認知の拡大、ブランディング、顧客との関係作り、販売促進を行うことができます。

詳しくはこちら

■Instagram活用の有効性と、日本より旺盛なタイのインターネット利用状況

FacebookやInstagram（インスタグラム）、YouTubeに接続するだけで、どこからでも臨場感あふれる商品・サービスの販売プレゼンテーションができ、顧客ターゲット層からの反応や興味関心が即座に把握できます。

とくにタイのインターネットユーザーのFacebook、YouTubeの利用率は、日本がそれぞれ70%前後であるのに対して90%を超え、インターネット利用時間も日本の2.5倍近くに上るなど、日本以上に高い効果を見込むことができます。（出典・参考：We are social、2019年1月時点の調査データ）

アイコム 2019年タイ人のインターネット利用状況

■新型コロナウイルスによる「巣ごもり消費」への対応が企業存続の鍵

さらに新型コロナウイルスによる「巣ごもり消費」においては、すでに多数報道されているようにインターネット動画視聴へのニーズが高まっており、リアルな経済活動が停滞するのに反して、ビジネス成長のチャンスが拡大しています。

とくにタイやマレーシアでは政府主導のもと日本よりもはるかに厳しい外出禁止措置がとられており、日本よりもはるかに高い割合で在宅勤務、在宅生活を送っています。企業サイトや商品サイト、SNSへのアクセスは急増し、「巣ごもり消費」によるオンライン購入、オンラインデリバリーが急速に伸びる中、この需要に対応できるかどうかが企業存続の鍵になっています。

■コロナ後も変わらない生活スタイルに適応可能な営業体制を

タイやマレーシアでは、この先も当面、規制と緩和を繰り返す社会生活が続くと考えられています。その一方で、オンラインコミュニケーション、オンライン購入など新たなスタイルは、コロナが収束した後も定着すると分析されています。「嵐が通り過ぎるのを待つ」のではなく、この新たな生活スタイルの変容に適応する営業体制の構築が必要になっているのです。

จากการแพร่กระจายของ COVID-19 ประเทศไทยได้ประกาศคำสั่งการควบคุมการเคลื่อนไหว (MCO) ในวันที่ 9 เมษายน 2563 และขยายไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ไม่ต้องสงสัยเลยว่าช่วงเวลานี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากมาย และลูกค้าของคุณเริ่มที่จะระงับหรือลดการใช้จ่าย

Webinar เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ได้รับความนิยมในการเข้าถึงลูกค้าของคุณในช่วง Work From Home

Webinar คืออะไร?

Webinar มาจาก “Web” และ “Seminar” มันเรียกว่าการสัมมนาออนไลน์หรือ e-learning ลักษณะสำคัญของการสัมมนาผ่านเว็บคือองค์ประกอบแบบอินเทอร์แอคทีฟ ระหว่างผู้นำเสนอและผู้ฟังแบบ real time

ข้อดีของการสัมมนาผ่านเว็บคืออะไร

• สามารถจัดขึ้นได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่หรือการเข้าถึง
• สามารถเข้าร่วมได้จากทุกที่เช่นที่บ้านหรือที่ทำงานได้ทุกเวลา
• ต้นทุนต่ำและประสิทธิภาพสูงขยายโอกาสในการพัฒนาลูกค้าของคุณ
• สามารถจัดกำหนดการใหม่เพื่อสร้างการกระจายแบบเรียลไทม์และการกระจายบันทึก
• ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สถานที่จัดงาน
• ดึงดูดผู้ชมของคุณและสร้างความเชื่อมั่น

การสัมมนาผ่านเว็บแบบสดสามารถให้คุณค่าและมอบการสื่อสารสองทางกับผู้ชมของคุณ

การสัมมนาผ่านเว็บสามารถนำเอากลยุทธ์การตลาดแบบดั้งเดิมมาใช้และคุณค่าของมันนั้นมีความพิเศษกว่ามาก

Webinar เป็นเครื่องมือทางการตลาด  บริษัทจำนวนมากเริ่มใช้วิดีโอ webinar เป็นการวางแผนการตลาดและดึงดูดตลาดในวิดีโอ webinar การวิเคราะห์การสนทนาและการวิเคราะห์แบบสอบถามจะดำเนินการในระหว่างการสัมมนาออนไลน์ ในทางตรงกันข้ามเนื้อหาวิดีโอการตลาดสามารถอัปโหลดเพื่อการรับชมย้อนหลัง

สร้างลูกค้าเป้าหมายใหม่

การสัมมนาผ่านเว็บที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างโอกาสในการขายใหม่ที่มีคุณภาพสูง

ทำไม?

เพราะคนที่เห็นการสัมมนาผ่านเว็บ และมีส่วนร่วมกับแบบฟอร์ม โดยการลงทะเบียนสำหรับกิจกรรม คนเหล่านี้คือคนที่บอกคุณว่าเค้าสนใจในเนื้อหาการสัมมนาผ่านเว็บของคุณ

คุณพร้อมที่จะเริ่มการเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางธุรกิจของคุณโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ท้าทายเหล่านี้ แล้วหรือยัง

บริษัทจำนวนมากขึ้นกำลังเพิ่มการลงทุนในโฆษณาของ Google LINE และ Facebook

ตลาดดิจิทัลกำลังทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อส่งเสริมธุรกิจและบรรลุผลลัพธ์ที่มากขึ้น เราจึงต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับแพลตฟอร์มและกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลล่าสุดที่ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

มาดูแพลตฟอร์มหลักทางการตลาดดิจิทัลในประเทศไทยในปี 2563

Source：Digital 2020 Thailand (January 2020) v01, DataReportal 

จากแหล่งข้อมูลข้างต้น Facebook (47 ล้าน) เป็นโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดตามด้วย Instagram (12 ล้าน) และ Twitter (6.55 ล้าน) จากมุมมองการตลาดดิจิทัลเครือข่ายสังคมเช่น Facebook, Instagram และ Twitter มีจุดแข็งที่สามารถกำหนดเป้าหมายผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ

ในจำนวนประมาณ 69 ล้านคนในประเทศไทย
52 ล้านคนใช้อินเทอร์เน็ต ผู้ใช้โซเชียลมีเดียมากกว่า 47 ล้านคนใช้ Facebook ผู้ใช้งานเน็ตในประเทศไทยใช้โซเชียลมีเดียเหล่านี้เฉลี่ย 9 ชั่วโมงต่อวัน สิ่งสำคัญที่จะใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มที่ทำแคมเปญการตลาด ฯลฯ และเข้าหากลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ
Facebook ได้กลายเป็นกระแสหลัก  สามารถใช้สำหรับกลยุทธ์ต่าง ๆ เช่นการทำแคมเปญสำหรับแต่ละเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของ บริษัท นอกจากนี้เรายังพบว่าโพสต์โดยเฉพาะที่มีเนื้อหาวิดีโอมีอัตราการมีส่วนร่วมสูงสุดของโพสต์ Facebook ทุกประเภท

แอปพลิเคชั่นการสื่อสารที่ได้รับความนิยม LINE มีผู้ใช้ 42 ล้านคนในประเทศไทยซึ่ง 39 ล้านคนใช้งานไทม์ไลน์ สถิติแสดงให้เห็นว่าประมาณ 90% ของผู้ใช้กำลังดูไทม์ไลน์

กุญแจสำคัญคือการเข้าใจกลยุทธ์ของบริษัท อย่างชัดเจนว่าแพลตฟอร์มใดเป็นที่ต้องการสำหรับเป้าหมายและรู้ว่าสื่อใดที่จะใช้เพื่อให้บรรลุยอดขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ติดต่อเราได้ หากท่านต้องการขยายธุรกิจในประเทศไทย เราจะวางแผนการตลาดเพื่อให้ทุกบริษ้ทบรรลุเป้าหมาย

Previously, we have shared on our blog that from 2012 to 2017, there are digital shift in marketing in Thailand, meaning that digital channel marketing is increasing. Today let’s look at what changes have occurred in 2018 and the first half of 2019 and how is it accelerating?

We hope you find it useful for future marketing plans in Thailand.

Digital Advertising expenses in Thailand (~2019)

Source：Digital Advertising Association (Thailand) /  DAAT

Thailand’s digital advertising spending has increased 36% from 2017 to 2018, reaching a total of 17 billion baht by the end of the year. The Japanese yen is 51.0 billion yen (calculated as 1THB = 3 yen). Japan’s digital advertising expenses in 2018 are 1,758.9 billion yen (116.5% compared to the previous year) (Dentsu: Japanese advertising expenses | quoted from advertising expenses by medium), so in comparison, the Thai digital advertising market is still small yet it’s showing a huge growth and it has continuing to grow over the years.

Thailand digital advertising spending continues to grow but is projected to close the year at a slower rate than 2018 (+19% vs +36%).  Total digital spending in 2019 is expected to exceed 20 Billion baht (Reference: Digital Advertising Association (Thailand) KANTAR).

Next, let’s take a look at the changes in advertising expenses from 2018 to present 2019 for the four mass media (TV, newspaper, magazine, radio), which are representatives of traditional Thai advertising.

Thailand Mass 4 Media Advertising Expenditure by Media

Comparing 2018 and 2019, we can see that advertising expenses for media other than digital TV are decreasing. This may be cause of fast online media growth as digital media gets closer to consumers behaviors each day.

Let’s take a look at what kind of industries cooperated in digital spending in Thailand. In 2017, communications was the biggest digital ad spender.

Digital advertising expenses by industries in Thailand (2017)

Source：Digital Advertising Association (Thailand) /  DAAT

Digital advertising expenses by industries in Thailand (2018)

Source：Digital Advertising Association (Thailand) /  DAAT

How was it changed from 2018 until now? In 2017, 1st place was communications companies but from 2018 it has dropped by 18% with the automotive industry holding down 13% of the total.

Digital advertising expenses by industries in Thailand (2019)

Source：Digital Advertising Association (Thailand) /  DAAT

In 2018, the automotive industry was the largest digital advertising spender, followed by telecommunications companies and skin care. In Thailand, however, the introduction of next-generation communications standards “5G” is not yet expected, so in 2019 it is expected that skincare will overtake communications.

Let’s see what kind of digital advertising media/platform these companies are running.

Digital advertising expenses by media in Thailand (2019)

Source：Digital Advertising Association (Thailand) /  DAAT

Of all media, Facebook is the most expensive, followed by YouTube, creatives, and displays. We believe that creative and display, primarily video-related formats, are expected to grow the most by the end of 2019.
Finally,

We can help you with digital marketing for Thai market. If you have any problems, please feel free to contact us.

Introduction

More than half of the world’s population is now Internet users, and convenient services are being created every day that can be used on the Internet, from search and email to social communication, online games, and shopping for daily necessities. Statistics show that in Japan, 118 million (94%) of the 127 million people are Internet users, and Thailand also uses the Internet at a high rate of 57 million (82%) out of a population of 69.24 million. Is out. However, even if the usage rate is similarly high, the usage of the Internet differs between the two countries. If your company expands the use of the Internet in business, you may be confused by the gap. In this article, I would like to explain the current Internet usage situation in Thailand in comparison with Japan.

All the data in this article is based on the data of We are social as of January 2019.

Device used

The major difference in Internet usage between Japan and Thailand is the difference in the devices used. There are various types such as PCs, mobiles, tablets, and game consoles, but they can be broadly divided into PCs and mobiles. It is said that the number of young people who use PCs has decreased in Japan in recent years, but the Internet has only become widespread since the days when there was no mobile Internet, and there are still more people using the Internet on PCs than on mobiles. Websites have become mainstream to support both PC and mobile, but in most cases, websites will be created on the assumption that they will be viewed on a PC and will be compatible with mobile.

The average daily internet usage time is 1 hour and 25 minutes for mobile and 2 hours and 20 minutes for PC. On the other hand, in Thailand, the Internet and mobile have spread rapidly in recent years. Regarding the spread of mobile, Thailand has a population of 69.24 million and 92.33 million (133%), which is higher than the population as in Japan. (186 million people (147%) in Japan) Since mobile appeared before PCs were fully penetrated, there are more mobile users than PC Internet users in Thailand. The average daily internet usage time is 3 hours 58 minutes from a PC and 5 hours 13 minutes from a mobile. If you want to send information to Thai people on the Internet, use it from your smartphone, such as whether the page layout is mobile compatible, the buttons are not difficult to press, and the image is large enough to be seen on the smartphone screen. It is necessary to consider the above.

Internet spent time

There are also differences in internet usage time between Japan and Thailand. It is easy to think that Japan, a developed country, uses the Internet more actively than Thailand, which is an emerging country, but in reality, Thailand spends much more time on the Internet than Japan. The average daily usage time of Internet users is 3 hours and 45 minutes in Japan. This is a surprisingly low number of 40th place compared to other countries in the world. On the other hand, Thailand has 9 hours and 11 minutes, which is the third highest in the world after the Philippines and Brazil, showing that the amount of internet usage is extremely high. As mentioned in the previous section, the average daily Internet usage time from mobile is 5 hours and 13 minutes, which is the highest in the world. (Japan ranked 43rd in 1 hour and 25 minutes) It was only in the last few years that Thailand’s Internet usage rate began to rise sharply, and high-speed communication throughout Thailand due to the establishment of Internet infrastructure by government policy. It is thought that the fact that it became available has a great influence. Even in Japan, walking smartphones are a problem, and the amount of smartphones used is quite high, but there is a difference of 2 to 3 times compared to Thailand. Possible reasons are that Thailand is introducing free wi-fi and has a place where you can use the Internet without worrying about packets, and watching videos on your smartphone in a store that is open. There may be an environment where it doesn’t matter much even if you play with your smartphone during work to see the scene. In any case, the increased use of the Internet should increase business opportunities. Even when disseminating information, it is necessary to formulate a strategy that takes into account the online situation in Thailand, such as which media such as Facebook, Instagram, and Twitter should be used for efficient recognition.

Social Media usage

It was found that the average daily Internet usage time of Thai Internet users is as high as 9 hours and 11 minutes. So what are Thais mainly using the Internet for?

Video services have the longest usage time, with an average of 3 hours and 44 minutes. The same is true in Japan, where video services are overwhelming at 2 hours and 28 minutes, compared to 36 minutes for social media and 16 minutes for music services. However, what I would like to pay attention to here is that the usage time of social media in Thailand is 3 hours and 11 minutes, which is comparable to that of video services. Due to the nature of video services, the usage time during visits tends to be long. Even when comparing the “average time spent per visit” of the top 20 most visited sites in the world, including Google and Facebook, only YouTube exceeds 20 minutes. (Google 9 minutes 12 seconds, Facebook 11 minutes 44 seconds, YouTube 21 minutes 36 seconds) Therefore, it can be seen that Thai people spend a relatively high amount of time on social media. Twitter is the most active social media service in Japan, but only 49% of all Internet users. In contrast, Facebook, the social media service with the highest number of active users in Thailand, accounts for 93% of all Internet users.

If anyone is using the Internet in Thailand, there is a 90% or more chance that they are using Facebook, which is an amazing number. You can see the importance of using Facebook when disseminating information in Thailand. Other than Facebook, the number of Instagram and Twitter subscribers also exceeds the majority of all Internet users, and it is also an effective strategy to get the help of influencers (users who have influence on social media) when marketing.

E commerce Service

In Japan, there are many services that allow you to shop online, such as Amazon, Yahoo Auctions, Mercari, and Rakuma, and they have become well-known in everyday life. It is said that 68% of Japanese internet users have now shopped online. Even in Thailand, the percentage of people who have shopped online is 80% of Internet users, indicating that the EC market is well-known in everyday life.

Commonly used services in Thailand include Kaidee, Lazada and Shopee. Kaidee is Thailand’s largest C to C (consumer-to-consumer) e-commerce site with 30 million members. Compared to Mercari in Japan, there are some hurdles on the selling side because it costs more to list, extend the listing date, and take a place for a prominent posting position. Since it does not have an electronic payment function, it is basically discussed individually and the products are delivered directly. Although it is optional, the need to include personal information such as telephone numbers in order to gain the trust of buyers may also be a factor raising the hurdle on the selling side. Many sellers are doing it as a side business, and the impression is that users are clearly separated by sellers and buyers. Not only clothes and electrical appliances, but also platforms dedicated to real estate and passenger cars have been created, and it seems that they are also producing good results. Lazada and Shopee are B to C (business-to-consumer) e-commerce sites, both of which provide services not only in Thailand but also in Southeast Asian countries such as Malaysia, Indonesia, Singapore, the Philippines and Vietnam. Lazada is only called AMAZON in Southeast Asia, and the number one access is unwavering, but Shopee, which was just established in 2015, also has a large number of members thanks to its focus on advertising such as TV commercials and outdoor signboards. It increased sharply and grew rapidly. Since it is B to C, general consumers cannot sell it, but there are many registrations such as private shops and the product lineup is abundant. They also sell daily necessities and consumables, and many people check their beans because they can buy them cheaper than at stores if they aim for sale. The payment method also supports card payment online banking and cash on delivery, so the hurdles for purchasing are low and safe. It will be interesting to see how much the Thai EC market, which continues to expand, will grow in the future.

New service trends

Both Lazada and Shopee are e-commerce companies operating in Southeast Asian countries, but Lazada Thailand has been completed in Thailand and Lazada Malaysia has been completed in domestic transactions. But if your company considers the opportunity to sell things online, you’ll want your products to be seen and bought in as many locations across countries as possible. Recently, cross-border EC, that is, EC that crosses countries, has become popular. It is a service that enables transactions across countries using EC sites such as Lazada and Shopee. For example, with a service called ECCS (Enterprise Commerce Cloud Service), you only have to list once, and you can list multiple EC sites such as Lazada and Shopee at the same time in each country. When a product is sold, if you place inventory locally, the carrier will be notified and you will be able to deliver the product. Furthermore, it is possible to aim for upsell and cross-sell by acquiring the information of the customer who purchased it and delivering the advertisement suitable for that customer. If you purchase information on the Internet properly, you can use efficient methods with less effort to improve your business performance. Since EC in Thailand is developing steadily, how to utilize EC using the Internet for its own business will be a point of attention in various places in the future.

In addition, there are services that can take advantage of the large number of Thailand Social media active users. For example, a tool called Visumo (instagram marketing tool), which is rapidly becoming popular in the marketing field today, which collects the photos related to the company’s products from the photos posted on Instagram by the general public, display on the company’s site, to generate direct sales from there. It allows you to draw an effective customer journey flow. You can use Instagram to improve sales and brand image. Rather than spending a lot of money on TV commercials for consumers who are injured by advertisements, Instagram, which appeals products by consumers themselves, is spreading in Thailand because it has a high word-of-mouth effect and is cost-effective.

Summary

Internet usage in Thailand is increasing year by year, and the Social media and EC markets are still expected to expand. For those who are doing business in Thailand, how to connect their own business with the Thai Internet will be an issue. We are happy to help you with digital marketing for the Thai market. If you have any problems, please feel free to contact us.

Chatbot คืออะไร ?

Chatbot ก็คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดนึง ที่มีไว้สื่อสารโดยการสนทนากับมนุษย์ เพื่อประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางนึง  โดยที่ Chatbot แบบหลักๆ 2 แบบคือ

1. กำหนดด้วยกฎต่างๆ (Based on rules)
2. แบบที่มีปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence)

Chatbot ดีอย่างไร ?

Chatbot เป็นตัวช่วยที่ดีมากตัวนึง มันสามารถประยุกต์ให้เข้ากับหลายแพลตฟอร์ม หลากหลายธุรกิจ ที่จะคอยมาช่วยเราดูแลลูกค้าหรือผู้ใช้งานและธุรกิจของเรา อย่างเช่น

• ตอบปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับการใช้งานอัตโนมัติ
• นำเสนอข่าวสาร โปรโมชั่น ต่างๆ สู่ User โดยตรง
• ช่วยในการแนะนำลูกค้า สร้างบิลและหน้าจ่ายเงิน
• ให้คำปรึกษาเฉพาะทางในด้านต่างๆ
• สามารถเก็บฟีดแบ็คจาก User ได้
• ผู้ช่วยด้านการเงิน แจ้งการทำธุรกรรมหรือแม้แต่อัพเดทวงเงิน

タイで生活していると、電車などの交通機関や店舗の中、道端など、至る場所でスマートフォンを操作している人をよく見かけます。画面を覗き見すると、大抵の人がSNSや検索など、インターネットを利用しているように見えます。

実際のところ、現在タイではどのくらいの人がどのようにインターネットを利用しているのでしょうか。その実態について調べました

情報収集に役立つ資料

We Are Socialが発行するレポート

We Are Socialはイギリス・ロンドンが本拠地の世界各国に拠点を持つグローバルエージェンシーです。主にSNSコンサルティングなどを手掛けており、毎年世界各国のインターネット利用状況に関するボリュームあるレポートをWebサイト上で発表しています。

本記事ではこのレポートから内容を抜粋し（タイは67ページから）、またイメージしやすいように、日本の状況との比較を交えながらタイのインターネット利用状況についてお伝えします。

タイのインターネット利用状況

インターネット利用率

2018年1月時点でのタイのインターネット利用率は人口の82%、人数にすると5,700万人になります。2017年1月時点の利用率は人口の67%、4,600万人だったため、1年間で約24%増加しています。

（2017年1月の状況）

対して日本のインターネット利用率は人口の93%（増加率は前年比0.6%）で高水準が続いていますが、タイも急激にこの状態に近付いてきていると言えます。

利用デバイス

タイの多くの人々がインターネットを利用していることは分かりました。しかしインターネットと一言で言ってもスマートフォンやPC、タブレット、ウェアラブルデバイスなど様々なデバイスがありますが、実際にはどのデバイスを利用しているのでしょうか。

タイのデバイスの利用率は、PCよりスマートフォンが高いです。日本では逆で、スマートフォンよりもPCの利用率が高く、またスマートフォンの利用率は日本よりもタイの方が高いです。日本ではPCからじわじわと、タイではスマートフォンから一気にインターネットが広がったことが分かります。

インターネット利用時間

タイの人々は、1日のうちなんと9時間半もインターネットを利用しています。24時間のうち睡眠を7時間、起きている時間を17時間とすると、起きている時間の半分以上をインターネットに費やしていることになります。またそのうちの約3割の3時間をSNSが占めています。ストリーミング型の音楽配信サービスの利用も多いことが分かります。

対して日本はどの項目もタイより少ないです。

日本でも色々な場所でスマートフォンを操作する人を見かけるためインターネットの利用時間が多いように見えますが、こうして数字で比べると、いかにタイの人々がインターネットのヘビーユーザーであるかが分かります。

デバイス別のインターネット上トラフィック

インターネット上のトラフィックのデバイス別シェアは、タイと日本で真逆になります。

タイでは全トラフィックの約3割がPC、7割がスマートフォンです。

日本では逆で、PC7対スマートフォン3になります。タイではスマホに最適化されたプラットフォームの重要さが分かります。

タイのSNS利用概要

SNS利用率

タイのSNSユーザー数は5,100万人で、人口の74%です。冒頭でご紹介したインターネット利用者数が5,700万人であるため、そのうちの約9割がSNSを利用していることになります。

日本では総人口の多さから、SNSユーザー数自体はタイよりも多い7,100万人ですが、これは人口の56%、インターネット利用者の60%になり、SNSの利用率はタイよりも低いと言えます。

利用SNS

よく利用されているSNSは、FacebookやYoutube、Instagramなど世界的にメジャーなものが、タイと日本双方で上位にランクインされています。

日本ではTwitterがFacebookよりも上位にランクインしており、Twitterの強さが見えます。

Facebook利用状況

タイの月間Facebookアクティブユーザーは5,100万人で、タイのSNSユーザー数と同じです。タイのSNSユーザーイコールFacebookユーザーと言えます。

日本のFacebookアクティブユーザー数はタイよりも少ないです。

Facebookユーザーの年齢別内訳です。タイは10代後半～30代前半の若者が最大ボリュームゾーンで、40代以降になると一気に少なくなります。

日本のボリュームゾーンはタイより少し後ろで、20代中盤～50代まで幅広い世代が利用しています。

タイと日本の人口ピラミッドは似ていて両国とも少子化なため、この年代別Facebookユーザー層の違いは興味深いです。

Instagram利用状況

一方でInstagramの利用状況は、タイと日本で似た傾向が見られます。タイは人口の19%、約1,300万人がアクティブユーザーです。

それに対して日本のInstagramアクティブユーザー数は人口の17%の2,200万人と、タイと同じような割合です。

さいごに

日本との比較を通して、タイのインターネット利用状況について一部ですがご紹介させて頂きました。本レポートには他にも興味深いスライドがあるので、ぜひご覧ください。

弊社ではタイ市場向けのデジタルマーケティングのお手伝いをさせて頂いております。お困りごとがございましたらぜひ弊社までお気軽にご相談ください

皆様もご存知の通り、日本への外国人観光客数は増え続けておりますが、タイ人観光客も例外ではありません。皆様の周りでも最近日本に行ってきた、またはこれから行く予定、というタイ人の方は増えているのではと思います。

2017年度のタイ人訪日客数は、100万人突破まであと少し、というところでした。

今年（2018年）は以下の通り、LCCを中心に日―タイ間で航空便の就航・増便が予定されており、日本へのアクセシビリティが更に向上するため、タイ人訪日客数はより増加すると見込まれています。

• タイ・エアアジアＸが４月にバンコク―札幌直行便を再就航することを発表
• タイ国際航空がバンコク―成田とバンコク―中部セントレアの増便を発表
• LCCノックスクート・エアラインズが第２四半期（４～６月）にバンコク―成田線、同タイ・ライオン・エア（ＴＬＡ）も早期に成田、福岡路線の開設を目指すと発表

それに伴いタイ人訪日客向けサービスの充実やコンテンツのタイ語化など、様々な対応を検討される企業様等が増えると思いますが、実際タイの人々は訪日旅行に対してどのような期待や思いを持っているのでしょうか。タイ人の訪日観光に関する意識について調べました。

情報収集に役立つ資料

Asia Interaction Supports社発行のレポート

Asia Interaction Supports社は、愛知県名古屋市を本拠とし、インバウンドサポート事業等をされています。同社は訪日観光客に関する独自調査もされており、今回は「訪日タイ人の人気観光地ランキング2018」から内容を引用しお伝えします。

調査概要

本調査は以下内容で実施されました。

期間： 2017年11月10日～2017年12月10日

回答者数： 2,810人

調査対象者： タイ人

方法： インターネット調査

調査結果

それでは、実際の調査結果の一部をご紹介いたします。

行きたい観光スポットランキングトップ20（複数回答可）

一位はやはり富士山です。

白川郷はUSJを上回る2位にランクインしました。特に冬の季節の雪が積もった景観はタイ人の間でもSNS等で多く投稿されており、人気を集めているようです。

上位20位にはテーマパークや東京タワーなど都市の観光スポットもランクインしていますが、それよりも自然景観や日本らしさを楽しめるスポットが多くランクインしています。

投票した観光地に行きたい理由

タイには四季がないため、日本で四季の移ろいによって姿を変える自然景観を楽しみたいという人が多いのだと思われます。また写真を撮りたいと多くの人が回答しており、記録するだけでなく、InstagramやFacebook等のSNSにアップしたいという人も多く居ることでしょう。

行きたい観光地へのアクセスが不便な場合どうするか

異国の地でアクセスが不便な場所に行くのはハードルが高いことと思われがちですが、意外にも7割以上のタイ人は「自分達でなんとか行く」ことを選び、アクセスの不便さ自体は大きなハードルにはならないと考えられます。アクセス方法さえしっかりと（出来ればタイ語で、最低でも英語で）提供すれば、例え少々アクセスしづらくても行こうとしてくれるのではないでしょうか。

買い物で期待するもの

お菓子やその他食料品は、大多数の回答者が期待すると答えており、化粧品やサプリメントなどの美容系アイテムも人気です。100円ショップの知名度が高いこともうかがえます。タイではほとんど見かけないガチャポンも人気ですね。

さいごに

タイ人の訪日観光に関する意識調査について一部ですがご紹介させて頂きました。本レポートには他にも興味深い内容があるので、ぜひご覧ください。

弊社ではタイ市場向けのデジタルマーケティングのお手伝いをさせて頂いております。お困りごとがございましたらぜひ弊社までお気軽にご相談ください。

In Thailand recently, not only BtoC companies but also BtoB companies are feeling that marketing has been shifted to digital accelerating, but how much scale and speed is it actually progressing?
This time, we will focus on “advertising” and look at the trends in Thailand while comparing with situations in Japan.

We hope you find it useful for future marketing plans in Thailand.

Digital Advertising expenses in Thailand (~2017)

Source：Digital Advertising Association (Thailand) /  DAAT

Thailand’s digital advertising expenses in 2017 were 12,195million THB, an increase of about 340% compared to 2012 which is about 36.6billion yen ( calculated by 1 THB= 3yen).
In 2017, Japan’s digital advertising expenses were 1,509.4billion yen (increased about 70% compared to 2012). Compared to this, Thai digital advertising market is small, yet it it continuously growing over the years.

Digital Advertising expenses in Japan (~2017)

Next, let’s look at changes in advertising costs for the four media (TV, newspaper, magazine, radio) that are representative of traditional advertising.
First is Thailand.

4 media advertising expenses in Thailand  (THB)

In 2017, advertising costs for 4 mass medias in Thailand (TV, newspaper, magazine, radio) were 79 million THB, a decrease of about 15% compared to 2012.
If you compare the transition of digital advertising and traditional advertising, you can see a clear digital shift in Thailand.

What about the situation in Japan?

4 media advertising expenses in Japan

In the 5 years from 2012 to 2017, the advertising expenses for the 4 Japanese media (TV, newspaper, magazine, radio) have been flat (no increasing or decreasing).

In Japan, the scale of traditional advertising has not changed, and the scale of digital advertising has expanded. From the above we can observe that the flow from “traditional advertising to digital advertising” is a significant trend in Thailand compared to Japan.

Next, let’s look at what industries in Thailand are actively investing in digital adveritsing.

Digital advertising expenses by industries in Thailand

Source：Digital Advertising Association (Thailand) /  DAAT

Telecommunications companies such as AIS, dtac, and true spend the most money on digital advertising. Since there are many services via smartphones, there are digital advertising strategies based on this to reach the targets.
Next is automobile related industries. Then skin care, beverages, daily necessities and cosmetics. This shows that digital advertising is generally used, not just for the youth targeted industries.

So how do these companies run digital advertising?
Here are the digital advertising expenses by media.

Digital advertising expenses by media in Thailand

Source：Digital Advertising Association (Thailand) /  DAAT

The largest number follows Facebook and Youtube. Thailand has the largest numbers of LINE users after Japan, but it may be said that the advertisement utilization in LINE is restrictive.
Finally,

The reason why the user of digital advertising by companies in Thailand is spreading rapidly is because of the results of easily achieved due to the high use of internet usage and smartphones.

We can help you with digital marketing for Thai market. If you have any problems, please feel free to contact us.

まだ先の話と言われていた中国のECが一気にブレイクし、あっという間にEC大国になりました。東南アジアのECについては、「2～3年の内」「いつブレイクしてもおかしくない」「いや、当分ない」など、これまで様々な期待と諦念が囁かれてきましたが、実際のところはどうなのでしょうか。
今回は、東南アジアの中でも成長余地が大きいとされている、タイのEC市場状況を検証します。

タイのEC市場規模

以下は世界のEC市場規模の比較ですが、タイのEC市場はEC先進国に比べるとまだ小規模だと言えます。

世界のEC市場規模（2018年6月）

出典：Statista 2018年6月時点

ただ、ECの市場規模だけで比較しても、タイのECがどの程度の進捗状況にあるのか明確には見えません。そこで、GDPとEC売上規模の比較をしてみます。

GDPに対するEC売り上げ規模の割合
（GDPとEC売上の積み上げを100%とした場合）

GDPデータ出典：IMF – World Economic Outlook Databases (2018年4月版)

こうしてみると、GDPが大きい中国でいかにECの売上規模が大きかが分かります。タイはGDPに対するECの売上が少なく、伸びしろが大きいと言えます。

タイのEC売上推移予測

タイのEC市場規模が今後どのように推移して行くかを予測したデータが以下のグラフです。

タイのEC売上推移予測（～2022年）

出典：Statista 2018年6月

4年後の2022年には現在の2倍近くに成長し、その牽引役となるのは、ファッションや嗜好品といった個人生活者のライフスタイル関連消費になると予測されています。

タイの有力ECモール

日本では2017年時点のEC店舗総数が約190万軒で、そのうちECモールに属さない単独ショップの数は115万軒。EC全体の実に60％が単独のECショップという構造（出典：エンパワーショップhttps://ecclab.empowershop.co.jp/archives/38702）です。

一方でタイのEC市場は日本とは異なり、少数の有力ECモールがその圧倒的な集客力で市場の覇権を握っています。
アクセスの多いトップ5をリストアップします。

Lazada Thailand

https://www.lazada.co.th/

2018年3月時点での月間推定トラフィック数：63,000,000*

東南アジアの電子商取引のリーダーであり、インドネシア、フィリピン、シンガポール、マレーシア、ベトナムにも展開するLazadaは、タイでも圧倒的な強さを誇るECモールです。 2016年に中国アリババがLazadaを買収し、東南アジアにおける全事業を傘下に収めています。

Shopee Thailand

https://shopee.co.th/

2018年3月時点での月間推定トラフィック数：17,000,000*

シンガポール、フィリピン、マレーシア、インドネシア、ベトナム、台湾で展開するShopeeも、東南アジアの有力なECモールのひとつです。ユニークなファッションブランドが多く、特に若者からの支持が高いのが特徴です。

さいごに

アリババグループの資金力を背景にLazada1強の独走が続くタイEC市場ですが、今後後続のECモールがどう差別化しながら戦うのか、また今年3月にベトナムに進出を表明し、アジアでの足場をじわじわと固めつつある世界最大のamazonとの覇権争いはどうなるのか、今後も注目のタイ・東南アジアEC動向となっています。

弊社ではタイ市場向けのデジタルマーケティングのお手伝いをさせて頂いております。お困りごとがございましたら、ぜひ弊社までお気軽にご相談ください。